Monday, October 2, 2017

วัดโชกเยซา วัดใหญ่ใจกลางย่านอินซาดง

วัดโชกเยซา (Jogyesa)วัดสงบกลางเมือง

ทางไปวัดโชกเยซา เริ่มต้นโดยนั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 สีส้ม เจ้าของบล็อกพักแถวอีแทวอน จึงนั่งสาย 6 สีน้ำตาลจากสถานี Itaewaon ผ่านสถานี Hangangjin นั่งมา 2 สถานีจากนั้นมาเปลี่ยนเป็นสายส้มที่ สถานี Yaksu และนั่งมาลงที่สถานี Anguk ใช้เวลาโดยประมาณ 21 นาที ไม่รวมเวลารอขบวนรถไฟ

นั่งสายสีส้มมาลงที่สถานี Anguk ทางออก 6 เดินออกจากสถานีมาประมาณ 100 เมตรจะเจอถนนเลี้ยวซ้ายไปย่านอินซาดงแต่เราจะไม่เลี้ยว ให้เดินต่อไปอีกหนึ่งซอยแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยนี้ เดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอวัดอยู่ทางด้านขวามือ เดินเข้าไปในวัดได้เลย แต่ถ้าใครเลี้ยวเข้าย่านอินซาดงมันจะมีซอยด้านขวามือก็สามารถเดินเข้าไปได้ ก็จะไปทะลุถนนฝั่งวัดได้เหมือนกัน เอาที่สะดวกก็แล้วกันค่ะ

วัดอยู่ติดถนนหาไม่ยากแต่ถ้าสังเกตไม่ดีอาจเดินเลยได้ ให้เดินช้าๆ ดูป้ายไปด้วยนะคะ ถ้าเห็นป้ายแบบนี้ก็ใช่เลย เดินเข้าไปเลยค่ะ


ช่วงที่ไปคือเดือนกรกฎาคม ดอกบัวเยอะมาก 


กระถางดอกบัวเรียงรายเต็มทางเข้าด้านหน้า









ภายในวัดสงบร่มรื่น เป็นธรรมชาติ







ดอกบัวกำลังเบ่งบาน


และยังมีดอกไม้หน้าร้อนสีสันสดใส


ต้นสนใหญ่โบราณเคียงคู่วัด





ด้วยความที่อยู่ใจกลางเมืองจึงมีคนมาสักการะกราบไหว้อยู่ไม่ขาดสาย ช่วงเย็นๆ คนก็ยังเยอะอยู่เลย






รอบวัดรายล้อมไปด้วยตึกสูงมากมาย



วัดพุทธศิลปะเกาหลี 











วันนี้เป็นวันเสาร์จึงมีพุทธศาสนิกชนมารับฟังการเทศนาธรรมมากมาย




วัดโชกเยซาเป็นวัดพุทธนิกายมหายานเหมือนประเทศไทย



เรื่องราวของพระพุทธเจ้าจึงคล้ายคลึงกัน


ภาพพุทธประวัติดูแล้วเข้าใจในความหมายทันที สังเกตหน้าพระพุทธเจ้าจะออกแนวจีน





กิจกรรมดีๆ ให้มาเข้าร่วม


มาทดลองชิมชาดอกบัวก็ได้นะ






วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง แต่ด้านในสงบร่มรื่นไม่มีเสียงจากภายนอกมารบกวนเลย นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมมากมายให้มาทดลองปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาธรรมภาษาอังกฤษ Temple Stayหรือการอยู่วัดทำกิจกรรมเฉกเช่นพระสงฆ์ปฏิบัติกิจประจำวัน  นั่งสมาธิ ถือศีล ภาวนา เรียนรู็วิธีชงชา และอื่นๆ สนใจติดต่อกับทางวัดได้ที่เว็บไซต์นี้เลยค่ะ  https://eng.templestay.com/index2.asp?#

Monday, April 24, 2017

Myeongdong หลงรักนาง ภาค 2

Myeongdong ไปกี่รอบก็มีอะไรเปลี่ยนไปทุกรอบ ร้านเก่าไปร้านใหม่มา แต่ก็สามารถดึงดูดผู้คนให้มาแวะเวียนกันได้คึกคักทุกค่ำคืน มีความรู้สึกว่ามากลางคืนสนุกกว่ามาตอนกลางวันอีกค่ะ

ให้ภาพเล่าเรื่องต่อดีกว่านะคะ


สตอเบอรี่สดกล่องละ 8,000 วอน ถ้วยละ 3,000 วอน


 คนรอคิวชีสทอด


มันฝรั่งเกลียวธรรมดาไปต้องมีไส้กรอกอยู่ข้างในด้วย



แต่ละร้าน ลด แจก แถม ลูกค้าสนุกสิคะ







 ต๊อกบกกิอีกแล้ว กินร้อนๆ แก้หนาวได้ดี



คุณป้ากำลังผัดจับเช







สำหรับคนไม่ทานเผ็ดต้องไม้นี้









เครปหอมๆ คนรอคิวเยอะมาก



kabab ก็น่าลองทาน 


  




ขนมปลาอีกแล้ว


เครื่องประดับอยู่ทางนี้ 






เกาลัดคั่วร้อนๆ 

  

ลักษณะเหมือนชาชักแต่ดูจากสีน่าจะเป็นนมชักซะมากกว่า




มาตอนบ่ายช็อปจนเหนื่อยหากาแฟทานกันก่อน











หมี่เย็นเติมความสดชื่น


จับเช


มื้อเย็นที่มยองดง


มื้อเย็นนี้มีจุงกิเป็นเพื่อน 


ทานเสร็จแวะเข้าอีกซักรอบ 





  





แม่เลี้ยงคิมลองน้ำมะนาว



ย่านมยองดงไปกี่ทีก็ไม่เบื่อเพราะมีอะไรให้ดูได้ตลอดจริงๆ ค่ะ  จริงๆ เดินไปทั่วทุกซอยเมื่อยน่องเมื่อยขากันมาก แต่ไม่ได้ถ่ายภาพมาเพราะมันเยอะจริงๆ เสน่ห์ของที่นี่ไม่เคยหมดสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา