ทริปนี้เป็นเดือนกรกฎาคมอากาศร้อนมากมายแถมยังท้าทายกับสายฝนที่โปรยปรายลงได้ทุกเมื่อ ฝนที่เกาหลีบอกเลยว่าถ้าตกคือตกหนักมาก อย่าคิดเดินกลางฝน ควรหาที่หลบฝนจะดีกว่าเพราะฝนทั้งตกหนักและตกนาน วันที่ไปอากาศร้อนอบอ้าวแถมยังครึ้มฟ้าครึ้มฝน ออกจากที่พักต้องพกร่มติดตัวไปด้วย ตอนที่ไปถึงฝนโปรยปรายเล็กน้อย แล้วก็หยุดไป ทำให้เดินเที่ยวได้รอบมหาวิทยาลัยได้อย่างเต็มที่ ชดเชยจากทริปปีก่อนที่หมดเรี่ยวหมดแรงเดินเที่ยวรอบมหาวิทยาลัยไม่ไหว 555
สถานีนี้แหละ
ในสถานีก็จะมีโฆษณาอยู่ทั่ว พระเอกคนขวาจริงๆ เป็นนายแบบแต่พอมาเล่นซีรีย์ฮีก็ดังมากมายเลย
มาถึงทางออก ด้านนี้ exit 1 แต่อีกด้านเป็น exit 2 ยังไงก็เป็นถนนฝั่งเดียวกัน ฝั่งมหาวิทยาลัย ไม่ต้องข้ามถนนนะ ถ้าออกด้านนี้ให้เลี้ยวขวาค่ะ เดินเข้าซอยไปยาวๆ นิดนึง
เดินผ่านทางเข้าจะเจอป้ายแผนที่ของมหาวิทยาลัย
ตึกทรงกลมด้านซ้ายทางเข้าเป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา
แต่ตอนนี้เรามาทางด้านขวา
เนื้อที่รอบมหาวิทยาลัยกว้างมาก
นี่เลย ... จุดรับพลังฮวงจุ้ย ฝนตกเล็กน้อยพอคลายร้อนได้อยู่
มาแล้วต้องมีภาพ เดี๋ยวเขาจะว่ามาไม่ถึง
ตึกเรียนกระจกที่เจาะทะลุเขา
เดินไปยาวๆ นะคะ
แหงนมองขึ้นไปหนทางยังอีกยาวไกล
ฝั่งนี้คือหันกลับมามองอีกด้าน วิวสวยงาม
เดินขึ้นมาเหนื่อยๆ ก็นั่งพักได้
มุมนี้ก็สวย ถ่ายรูปได้ตลอดทางจริงๆ
ขึ้นมาถึงด้านบนจะเจอถนนลานหิน เก๋ไก๋มากมาย
ลานสนด้านบน
จากจุดนี้เดินไปเรื่อยๆ
ถนนลานหินช่างออกแบบได้เข้ากับภูมิทัศน์จริงๆ
ณ บริเวณนี้อากาศดีมาก
เดินอ้อมขึ้นมาทางขวา ผ่านตึกเรียน
ม.อีฮวาก่อตั้งโดยกลุ่มมิชชั่นนารี ตึกเรียนก็จะแนวยุโรป
เดินเยอะขอพักแป๊บบบ
ต้นสนกำลังออกดอก เพิ่งเคยเห็นอ่ะ
ดอกมูกุงฮวา คอกไม้ประจำชาติเกาหลี
ดูๆ ไปคล้ายดอกชบานะ
ขึ้นไปได้อีกแต่ไม่ไปแล้วนะ
Campus Police มั่นใจในความปลอดภัยได้เลย
จะไปทางตึกพิพิธภัณฑ์
ตึกนี้ก็สวย
ด้านข้างพิพิธภัณฑ์มีหินประดับสวน เรียกน้ำย่อยก่อนเข้าไปดูของจริงด้านใน
คาเฟ่ก็มีนาจา
นี่เลย ทางเข้าพิพิธภัณฑ์
Ewha Womans University Museum ก่อตั้งเมื่อปี 1935 จุดมุ่งหมายของการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ภายในจัดแสดงผลงานมรดกของชาติทั้ง งานไม้ ศิลปะพื้นบ้าน และเครื่องปั้นดินเผา น่าสนใจมาก ถูกจริตเจ้าของบล็อกแต่น่าเสียดายที่เวลาที่ไปพิพิธภัณฑ์ปิดแล้ว หากมีโอกาสจะกลับมาเยี่ยมชมอย่างแน่นอนจ้า
ใครสนใจคอร์สไหนเก็บเงินมาลงทะเบียนเรียนได้ทุกๆ ซัมเมอร์
จะออกไปช็อปปิ้งแล้ว
มุมนี้คนก็ชอบมาถ่ายรูปเยอะ
ตามความหมายของชื่อ "อีฮวา" ที่แปลว่าต้นแพรที่ออกดอก
ด้านหน้าก็ร้านรวงเต็มไปโม้ด
ร้านรวงมีทุกซอย ทั้ง เครื่องประดับ กระเป๋า เสื้อผ้า หน้า ผม
ในซอยก็เดินทะลุได้ มีของขายตลอดแนว
งานไอทีก็มีนะจ๊ะ
โต๊ะที่มีร่มแดงเขียนว่า I phone 6
เครื่องสำอางชอบแบรนด์ไหนเดินเข้าไปเลย เดินขึ้นชั้นบนมีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟด้วยแหละ
ใครหา shop ของ banila co ไม่เจอ ที่อีแดอยู่หัวมุมถนนหาง่ายนะ
ใครชอบของกุ๊กๆ กิ๊กๆ แนะนำร้าน Art Box เดินเข้าไปมีใจละลาย ก็ของมันน่าร้ากกก
ฝั่งอีแดก็มีไลน์ เฟรนดส์เหมือนกัน
ตึกนี้ชั้นใต้ดินมีร้านขายเสื้อราคาดีงาม
รอบนี้มาตอนกลางคืน ฝนตกอย่างหนัก ร้านค้าปิดเร็วเลย
ร้านเสื้อใน subway ราคาเดียวกับด้านนอก
ข้างนอกฝนตกมันเปียก เลือกซื้อด้านใน subway ก็ได้ไม่ง้อจ้า