Monday, June 4, 2018

อีกสักครั้ง...... ที่อีแด

ภาพเก่าเล่าเรื่องจากทริป July 2017 วันนี้เราจะไปเที่ยวชมมหาวิทยาลัยสตรีอันดับ 1 ของเกาหลี Ewha Womans University หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า Edae (อีแด) เริ่มต้นการเดินทางจากที่พักย่านอีแทวอน นั่ง subway สาย 6 สีน้ำตาล มา 8 สถานี จากนั้น เปลี่ยนเป็นสาย 2 สีเขียวที่สถานี Hapjeong นั่งมาอีกเพียง 3 สถานี ก็ถึงจุดหมายปลายทางคือ Edae หรือ Ewha Womans University เดินออกจาก subway ทางออกที่ 1 หรือ 2 ก็ได้ อยู่ฝั่งเดียวกันคือฝั่งมหาลัยเพียงแต่เป็นทางออกคนละด้าน

ทริปนี้เป็นเดือนกรกฎาคมอากาศร้อนมากมายแถมยังท้าทายกับสายฝนที่โปรยปรายลงได้ทุกเมื่อ ฝนที่เกาหลีบอกเลยว่าถ้าตกคือตกหนักมาก อย่าคิดเดินกลางฝน ควรหาที่หลบฝนจะดีกว่าเพราะฝนทั้งตกหนักและตกนาน วันที่ไปอากาศร้อนอบอ้าวแถมยังครึ้มฟ้าครึ้มฝน ออกจากที่พักต้องพกร่มติดตัวไปด้วย ตอนที่ไปถึงฝนโปรยปรายเล็กน้อย แล้วก็หยุดไป ทำให้เดินเที่ยวได้รอบมหาวิทยาลัยได้อย่างเต็มที่ ชดเชยจากทริปปีก่อนที่หมดเรี่ยวหมดแรงเดินเที่ยวรอบมหาวิทยาลัยไม่ไหว 555


สถานีนี้แหละ

ในสถานีก็จะมีโฆษณาอยู่ทั่ว  พระเอกคนขวาจริงๆ เป็นนายแบบแต่พอมาเล่นซีรีย์ฮีก็ดังมากมายเลย


มาถึงทางออก ด้านนี้ exit 1 แต่อีกด้านเป็น exit 2 ยังไงก็เป็นถนนฝั่งเดียวกัน ฝั่งมหาวิทยาลัย ไม่ต้องข้ามถนนนะ ถ้าออกด้านนี้ให้เลี้ยวขวาค่ะ เดินเข้าซอยไปยาวๆ นิดนึง



 เดินผ่านทางเข้าจะเจอป้ายแผนที่ของมหาวิทยาลัย


ตึกทรงกลมด้านซ้ายทางเข้าเป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา


 แต่ตอนนี้เรามาทางด้านขวา


เนื้อที่รอบมหาวิทยาลัยกว้างมาก 


นี่เลย ... จุดรับพลังฮวงจุ้ย ฝนตกเล็กน้อยพอคลายร้อนได้อยู่ 


มาแล้วต้องมีภาพ เดี๋ยวเขาจะว่ามาไม่ถึง 


 ตึกเรียนกระจกที่เจาะทะลุเขา



เดินไปยาวๆ นะคะ 


แหงนมองขึ้นไปหนทางยังอีกยาวไกล 


 ฝั่งนี้คือหันกลับมามองอีกด้าน วิวสวยงาม

 เดินขึ้นมาเหนื่อยๆ ก็นั่งพักได้


มุมนี้ก็สวย ถ่ายรูปได้ตลอดทางจริงๆ 


ขึ้นมาถึงด้านบนจะเจอถนนลานหิน เก๋ไก๋มากมาย 


ลานสนด้านบน 


จากจุดนี้เดินไปเรื่อยๆ  





ถนนลานหินช่างออกแบบได้เข้ากับภูมิทัศน์จริงๆ 


ณ บริเวณนี้อากาศดีมาก 


เดินอ้อมขึ้นมาทางขวา ผ่านตึกเรียน  






ม.อีฮวาก่อตั้งโดยกลุ่มมิชชั่นนารี ตึกเรียนก็จะแนวยุโรป 



เดินเยอะขอพักแป๊บบบ 







ต้นสนกำลังออกดอก เพิ่งเคยเห็นอ่ะ



ดอกมูกุงฮวา คอกไม้ประจำชาติเกาหลี

ดูๆ ไปคล้ายดอกชบานะ 






ขึ้นไปได้อีกแต่ไม่ไปแล้วนะ  



Campus Police มั่นใจในความปลอดภัยได้เลย



จะไปทางตึกพิพิธภัณฑ์ 


ตึกนี้ก็สวย 



ด้านข้างพิพิธภัณฑ์มีหินประดับสวน เรียกน้ำย่อยก่อนเข้าไปดูของจริงด้านใน











คาเฟ่ก็มีนาจา 


นี่เลย ทางเข้าพิพิธภัณฑ์ 
Ewha Womans University Museum ก่อตั้งเมื่อปี 1935 จุดมุ่งหมายของการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ภายในจัดแสดงผลงานมรดกของชาติทั้ง งานไม้ ศิลปะพื้นบ้าน และเครื่องปั้นดินเผา น่าสนใจมาก ถูกจริตเจ้าของบล็อกแต่น่าเสียดายที่เวลาที่ไปพิพิธภัณฑ์ปิดแล้ว หากมีโอกาสจะกลับมาเยี่ยมชมอย่างแน่นอนจ้า 


ใครสนใจคอร์สไหนเก็บเงินมาลงทะเบียนเรียนได้ทุกๆ ซัมเมอร์ 


จะออกไปช็อปปิ้งแล้ว 


มุมนี้คนก็ชอบมาถ่ายรูปเยอะ 


ตามความหมายของชื่อ "อีฮวา" ที่แปลว่าต้นแพรที่ออกดอก



ด้านหน้าก็ร้านรวงเต็มไปโม้ด







ร้านรวงมีทุกซอย ทั้ง เครื่องประดับ กระเป๋า เสื้อผ้า หน้า ผม 



ในซอยก็เดินทะลุได้ มีของขายตลอดแนว 


งานไอทีก็มีนะจ๊ะ 


โต๊ะที่มีร่มแดงเขียนว่า I phone 6 





เครื่องสำอางชอบแบรนด์ไหนเดินเข้าไปเลย  เดินขึ้นชั้นบนมีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟด้วยแหละ


ใครหา shop ของ banila co ไม่เจอ ที่อีแดอยู่หัวมุมถนนหาง่ายนะ  





ใครชอบของกุ๊กๆ กิ๊กๆ แนะนำร้าน Art Box เดินเข้าไปมีใจละลาย ก็ของมันน่าร้ากกก




ฝั่งอีแดก็มีไลน์ เฟรนดส์เหมือนกัน 


ตึกนี้ชั้นใต้ดินมีร้านขายเสื้อราคาดีงาม  



รอบนี้มาตอนกลางคืน ฝนตกอย่างหนัก ร้านค้าปิดเร็วเลย




ร้านเสื้อใน subway ราคาเดียวกับด้านนอก






ข้างนอกฝนตกมันเปียก เลือกซื้อด้านใน subway ก็ได้ไม่ง้อจ้า




Monday, October 2, 2017

วัดโชกเยซา วัดใหญ่ใจกลางย่านอินซาดง

วัดโชกเยซา (Jogyesa)วัดสงบกลางเมือง

ทางไปวัดโชกเยซา เริ่มต้นโดยนั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 สีส้ม เจ้าของบล็อกพักแถวอีแทวอน จึงนั่งสาย 6 สีน้ำตาลจากสถานี Itaewaon ผ่านสถานี Hangangjin นั่งมา 2 สถานีจากนั้นมาเปลี่ยนเป็นสายส้มที่ สถานี Yaksu และนั่งมาลงที่สถานี Anguk ใช้เวลาโดยประมาณ 21 นาที ไม่รวมเวลารอขบวนรถไฟ

นั่งสายสีส้มมาลงที่สถานี Anguk ทางออก 6 เดินออกจากสถานีมาประมาณ 100 เมตรจะเจอถนนเลี้ยวซ้ายไปย่านอินซาดงแต่เราจะไม่เลี้ยว ให้เดินต่อไปอีกหนึ่งซอยแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยนี้ เดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอวัดอยู่ทางด้านขวามือ เดินเข้าไปในวัดได้เลย แต่ถ้าใครเลี้ยวเข้าย่านอินซาดงมันจะมีซอยด้านขวามือก็สามารถเดินเข้าไปได้ ก็จะไปทะลุถนนฝั่งวัดได้เหมือนกัน เอาที่สะดวกก็แล้วกันค่ะ

วัดอยู่ติดถนนหาไม่ยากแต่ถ้าสังเกตไม่ดีอาจเดินเลยได้ ให้เดินช้าๆ ดูป้ายไปด้วยนะคะ ถ้าเห็นป้ายแบบนี้ก็ใช่เลย เดินเข้าไปเลยค่ะ


ช่วงที่ไปคือเดือนกรกฎาคม ดอกบัวเยอะมาก 


กระถางดอกบัวเรียงรายเต็มทางเข้าด้านหน้า









ภายในวัดสงบร่มรื่น เป็นธรรมชาติ







ดอกบัวกำลังเบ่งบาน


และยังมีดอกไม้หน้าร้อนสีสันสดใส


ต้นสนใหญ่โบราณเคียงคู่วัด





ด้วยความที่อยู่ใจกลางเมืองจึงมีคนมาสักการะกราบไหว้อยู่ไม่ขาดสาย ช่วงเย็นๆ คนก็ยังเยอะอยู่เลย






รอบวัดรายล้อมไปด้วยตึกสูงมากมาย



วัดพุทธศิลปะเกาหลี 











วันนี้เป็นวันเสาร์จึงมีพุทธศาสนิกชนมารับฟังการเทศนาธรรมมากมาย




วัดโชกเยซาเป็นวัดพุทธนิกายมหายานเหมือนประเทศไทย



เรื่องราวของพระพุทธเจ้าจึงคล้ายคลึงกัน


ภาพพุทธประวัติดูแล้วเข้าใจในความหมายทันที สังเกตหน้าพระพุทธเจ้าจะออกแนวจีน





กิจกรรมดีๆ ให้มาเข้าร่วม


มาทดลองชิมชาดอกบัวก็ได้นะ






วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง แต่ด้านในสงบร่มรื่นไม่มีเสียงจากภายนอกมารบกวนเลย นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมมากมายให้มาทดลองปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาธรรมภาษาอังกฤษ Temple Stayหรือการอยู่วัดทำกิจกรรมเฉกเช่นพระสงฆ์ปฏิบัติกิจประจำวัน  นั่งสมาธิ ถือศีล ภาวนา เรียนรู็วิธีชงชา และอื่นๆ สนใจติดต่อกับทางวัดได้ที่เว็บไซต์นี้เลยค่ะ  https://eng.templestay.com/index2.asp?#