Tuesday, July 26, 2016

Bukchon Hanok Village หมู่บ้านของชนชั้นสูงในสมัยโชซอน

คอซีรีย์เกาหลีโดยเฉพาะผู้ที่ชอบแนวหนังย้อนยุคต้องรู้จักคุ้นเคยราชวงศ์โชซอน ราชวงศ์สุดท้ายของเกาหลีเป็นอย่างดี หมู่บ้านบุคชอน ฮันอก  (อ่านว่า ฮัน-อก) ฮันอกหมายถึงบ้านที่ก่อสร้างตามสถาปัตยกรรมเกาหลีโบราณ ก็เหมือนกับที่เราเห็นในหนังย้อนยุคพวกแดจังกึม จามอง ประมาณนั้น คำว่าบุคชอน ฮันอก หมายถึง หมู่บ้านที่อยู่ทางทิศเหนือ เนื่องจากเป็นที่อยู่ของชนชั้นสูงพวกขุนนางในราชสำนัก หมู่บ้านจึงตั้งอยู่ระหว่างพระราชวังชางด๊อก (Changdeokgung) และพระราชวังคยองบก(Gyeongbokgung) คำว่า กุง ภาษาเกาหลีแปลว่าพระราชวัง



การเดินทางก็แสนจะง่ายดาย (อีกตามเคย) นั่งรถไฟใต้ดิน สาย 3 สีส้ม ลงสถานีอันกุก (Anguk)  ทางออกที่ 2 เมื่อออกจากสถานีจะเจอถนนใหญ่ เดินตามทางมาประมาณ 300 เมตร จริงๆ แล้วจะเจอศูนย์นักท่องเที่ยวเราสามารถขอแผนที่และเดินตามแผนที่ไปรอบหมู่บ้าน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3ชั่วโมงครึ่ง แต่เนื่องจากเจ้าของบล็อกเป็นผู้ที่ไม่สันทัดในเรื่องเส้นทางจึงขอเดินทางตามใจฉัน ประหนึ่งว่าไปเสี่ยงดวงเอาดาบหน้าแต่ก็รอดมาทุกทีนะ 

ถนนหนทางร่มรื่นแม้ว่าแดดจะร้อนพอสมควร 

วิธีการรดน้ำต้นไม้ เราน่าจะลองนำมาทดลองทำบ้าง ปล่อยให้น้ำค่อยๆ ไหลซึมลงดินทีละนิด ต้นไม้ได้น้ำชุ่มฉ่ำทั้งวัน

ด้านซ้ายมือเจอตึกอิฐสีแดงแบบนี้ ตัวหนังสือสีแดงตัวโตตรงกระจกนั่นอ่านว่า "ย็อก" หมายถึงร้านขายยา



และด้านขวาเห็นบ้านมุงหลังคาทรงนี้หมายความว่าคุณได้มาถึงหมู่บ้านบุคชอนเรียบร้อยแล้ว

 ลุยได้เลย


เดินไปเรื่อยๆ อยากเข้าซอกไหน ซอยไหนก็เลี้ยวไปเลยค่ะ


เดินไปจะเห็นนักท่องเที่ยวหยุดถ่ายรูปตลอดทาง


เนื่องจากหมู่บ้านนี้ยังมีผู้คนอาศัยอยู่ เราจึงต้องเคารพสถานที่และสิทธิส่วนบุคคล ไม่ทำเสียงดังนะคะ












บ้านบางหลังจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์








เจอชาวเกาหลีใจดีถ่ายรูปให้ค่ะ มาตามหาบ้านซังโกแจในหนังเรื่อง Personal Taste ไม่แน่ใจว่าซอยนี้หรือเปล่านะ



ในหมู่บ้านจะมีที่ให้เช่าชุดฮันบกสวมใส่ถ่ายรูปด้วยค่ะ 







































บานประตูยังคงเอกลักษณ์เกาหลีโบราณ















เจอร้านขายของที่ระลึก



ศิลปินไอดอลที่ชื่นชอบรอคุณอยู่







ปฏิทิน โปสเตอร์มีเพียบ






บ้านเกาหลีจะอยู่บนเนินใครจะมาต้องเช็คสภาพความฟิตกันหน่อย โดยเฉพาะหัวเข่า เพราะมันสูงมากก























ไปตอนที่เขาปิดแล้วจึงได้แค่ถ่ายรูปด้านนอก



















ประตูบ้านแอบทันสมัย เห็นประตูลักษณะนี้นึกถึงวัดโบราณในจังหวัดเชียงใหม่มีลักษณะแบบนี้เหมือนกัน



ความเก่าแทรกตัวอยู่กับตึกยุคปัจจุบัน



ร้านกาแฟ







ร้านขายงานศิลปะแนวอาร์ตๆ



ช่างเครื่องเงิน











ดอกไม้หน้าร้อน



































วัดพุทธในหมู่บ้าน



ป้ายเขียนว่า Buddhist Temple Baek Sang Jeong Sa



พระพุทธรูปแบบมหายาน



เบาะสำหรับนั่งสวดมนต์















พระที่นี่สวมจีวรสีเทา







ตู้รับบริจาคเงิน







สภาพภายในวัดสะอาดสะอ้านและเรียบง่าย





















หมู่บ้านบุคชอนเป็นหมู่บ้านของลูกหลานขุนนางสืบเชื้อสายผู้ดีเก่า ปัจจุบันยังคงมีผู้คนอาศัยอยู่ หากนักท่องเที่ยวโชคดีอาจได้เจอเจ้าของบ้านออกมาต้อนรับและเชิญชวนให้เข้าไปเยี่ยมชมภายในบ้าน มาเที่ยวบุคชอนครั้งที่ 2 นี้ เจ้าของบล็อกและเพื่อนโชคดีที่มีโอกาสได้รับเชิญจากเจ้าของบ้านหลังหนึ่งให้เข้าไปเยี่ยมชมภายในตัวบ้าน บ้านของคุณลุงสะอาด เรียบร้อย เป็นระเบียบ แถมยังมีมุมพักผ่อนเล็กๆ น่ารัก เจ้าของบ้านใจดีอนุญาตให้พวกเราถ่ายรูปได้ จึงขอนำภาพความน่ารักของบ้านหลังนี้มาแบ่งปันค่ะ 

คุณลุงน่าจะอยู่ในวัยเกษียณแล้ว ใจดีมาก ท่านบอกว่าเคยมาเมืองไทย 3 ครั้งมาติดต่อเรื่องธุรกิจ คุณลุงรู้จักจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและรู้ว่าเป็นเมืองหลวงเก่าของไทยเราด้วย คนเกาหลีวัยขนาดนี้และพูดภาษาอังกฤษได้การศึกษาย่อมไม่ธรรมดา








สวนน้อยน่ารัก คุณลุงบอกว่านี่เป็น Candle Lamp เอาเทียนวางข้างในได้



ห้องดื่มน้ำชา คุณลุงบอกว่าสาวเกาหลีรุ่นใหม่ชงชากันไม่เป็นแล้ว แต่ท่านบอกว่าภรรยาของท่านเป็น "expert" ทางด้านการชงชา  Wow!!



หน้าร้อนคนเกาหลีจะนิยมปลูกพืชผักไม้เลี้อยไว้รับประทาน เท่าที่เห็นก็มี พริกชี้ฟ้าและมะเขือเทศ แต่ที่บ้านคุณลุงปลูกองุ่นเขียว



มุมรับแขกด้านนอก ใช้เป็นที่พักผ่อนรับอากาศบริสุทธิ์ได้ดีทีเดียว











No comments:

Post a Comment