Deoksugung สวย สงบ สยบความเคลื่อนไหว ภาค 2

ต่อเนื่องมาจากภาคแรก เจ้าของบล็อกถ่ายรูปมาเยอะมาก รูปไหนก็ดูสวยงาม อยากนำมาแบ่งปันกัน จึงขออนุญาตเล่าเรื่องพระราชวังท็อกซูเป็น 2 ตอนนะคะ

จากตอนที่แล้วเราได้เดินมาถึงท้องพระโรงซึ่งอยู่ตอนหน้าของพระราชวัง เมื่อเดินลัดเลาะไปก็จะเห็นตำหนักน้อยใหญ่อีกมากมายอยู่ด้านข้างและด้านหลัง

แต่ตึกทรงนี้มาได้ไง 

มุมพักผ่อนสงบร่มรื่นมาก 

 ช่วงนั่งพัก โชคดีมากได้มีโอกาสเห็นช่วงเปลี่ยนเวรยามพอดี

 ด้านหลังท้องพระโรง

จะมีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดและดูแลในแต่ละตำหนัก 

 บานประตูถูกพับเก็บขึ้นไว้ด้านบน

ด้านในดูโอ่โถงโล่งสบาย 

 เจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อบ

 ตำหนักหลังนี้มี 2 ชั้น

 สงบ เรียบง่าย

 น่าจะเป็นห้องเก็บของ

 ด้านนี้ทะลุออกไปจะเป็นที่นั่งพัก ร่มรื่น กว้างขวาง เย็นสบาย

 ตำหนักสองหลังนี้มีทางเชื่อมกัน

 คงจะเป็นช่องเติมไฟเพื่อสร้างความอบอุ่นในหน้าหนาว

 ฐานหินใต้ตำหนักหรือตัวบ้านจะช่วยเก็บความร้อน ให้บ้านอุ่นสบายในยามฤดูหนาว

 สวนด้านหลัง

 ระเบียงไม้น่านั่งและนอนมาก

 ดูด้านนอกอย่างเดียว

 บานประตูถูกออกแบบให้เชื่อมทะลุหาตำหนักอีกฝั่ง ทำให้นึกถึงประตู 15 ช่องที่ประาสาทหินพนมรุ้ง

 มุมตรงนี้ดูสบาย

 ประตูด้านข้างสวน

 น่าจะเป็นศาลาที่ประทับเวลาพระราชาลงมาเดินเล่นที่สวน แต่วันที่ไปมีนักศึกษามาจัดงานแสดง มีการติดตั้งเครื่องเสียงและไมโครโฟน และป้ายประกาศ

 ที่นั่งพักด้านหลัง

 มีตู้เครื่องดื่มหยอดเหรียญไว้บริการ

หรือจะดื่มน้ำเปล่าก็มีน้ำประปากดดื่มได้

 ถังขยะบอกไว้ชัดเจน แยกให้ถูกถังนะคะ

 บริเวณด้านหลังเย็นสบาย มีลมพัดตลอด สูดโอโซนได้เต็มปอดเลย

มีนักศึกษา ประชาชนมานั่งวาดรูปกันด้วย 

บริเวณนี้เป็นบริเวณด้านหลังซึ่งจะเป็นสวนพันธุ์ไม้ต่างๆ  หากไปทางด้านซ้ายมือจะเป็นประตูทางออก ออกประตูเดินเลี้ยวขวาย้อนขึ้นไปจะกลับไปออกตรง City Hall หรือศาลาว่าการของกรุงโซล

จบทริปพระราชวังท็อกซูแล้ว บรรยากาศที่ร่มรื่น เย็นสบาย ระหว่างทางเดินจะได้ยินทั้งเสียงนกร้องและจิ้งหรีด แมลงต่างๆ ใครที่ชอบความเงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน มาเที่ยวที่นี่รับรองไม่ผิดหวังค่ะ