Tuesday, July 26, 2016

เดินทางสู่กรุงโซล by Airport Limousine Bus

เมื่อผ่านด่าน ต.ม. มาได้สำเร็จก็ได้เวลาเข้าเมืองกันแล้ว การเดินทางเข้ากรุงโซลมีอยู่มากมายหลายวิธี สะดวกแตกต่างกันไปตามความต้องการ หากท่านมีสัมภาระน้อยชิ้นการเดินทางโดยรถไฟ AREX คือวิธีที่สะดวกและประหยัดทั้งเงินและเวลา รวมถึงยังสามารถเลือกลงสถานีที่ใกล้กับที่พักของท่านได้ แต่หากท่านมีสัมภาระชิ้นใหญ่หรือมีกระเป๋าหลายใบการนั่ง Airport Limousine Bus นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับงบประมาณในกระเป๋าและที่พักของท่านด้วยว่าอยู่ในเส้นทางผ่านของ Airport Limousine Bus หรือไม่ เจ้าของบล็อกได้ทดลองนั่งมาแล้วทั้ง 2 แบบ จึงขอนำประสบการณ์มาแบ่งปันกัน เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของท่าน แต่หากท่านมีสัมภาระมากมายและไม่ได้เดินทางมาคนเดียวการนั่งแท็กซี่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกแต่ค่าใช้จ่ายก็สูงตามไปด้วยเช่นกัน

แบบที่ 1 คือการนั่ง Limousine Bus
วิธีนี้สะดวกและง่ายที่สุดในความคิดของเจ้าของบล็อกเพราะเพียงแค่เดินผ่านประตูสนามบินอินชอนก็จะมองเห็นป้ายหมายเลขรถพร้อมแผนที่บอกรายละเอียดอย่างชัดเจนทั้งสถานีที่จะผ่านและเวลา เจ้าของบล็อกพักที่ Namsan Guesthouse แถว มยองดง รถบัสที่ผ่านคือหมายเลข 6015 เดินผ่านประตูหมายเลข 12 หรือ 13 ก็จะมองเห็นป้ายอย่างชัดเจน


เดินออกประตูมาจะเจอจุดรอรถพร้อมป้ายบอกหมายเลข เราก็ไปยืนเข้าแถวรอรถได้เลย จะมีคุณลุงใจดีมาช่วยจัดกระเป๋าพร้อมกับติดแท็กหมายเลขกระเป๋าและยื่นอีกส่วนให้เราเก็บไว้ตอนรับกระเป๋าลง ซึ่งไม่ได้ใช้โชว์หรอกเก็บไว้เป็นที่ระลึกซะมากกว่า กระซิบนิดนึงว่าบริเวณที่ยืนรอรถอยู่ใกล้กับที่สำหรับสูบบุหรี่นอกสนามบิน หากใครที่ไม่เป็นมิตรกับควันบุหรี่กรุณาหาหน้ากากสำหรับสวมกันกลิ่นและควันจะเป็นการดีต่อสุขภาพของท่าน



ตามป้ายนี้จะเห็นว่า ด้านมุมขวาบนจะมีคำว่า Mapo และ Myeongdong ซึ่งถ้าดูตามแผนที่ด้านล่างสุดจะเห็นว่ารถเริ่มจากสนามบินอินชอน ผ่าน Mapo เป็นสถานีแรกและจอดที่สถานีสุดท้ายคือ Myeongdong คือใครจะลงสถานีนี้ไม่ต้องกลัวหลงเพราะเขาจะตะโกนเรียกให้ลงเนื่องจากเป็นสถานีสุดท้าย ส่วนใครพักที่ไหนก็สามารถเช็คหมายเลขรถและสถานีที่จะลงได้จาก  http://www.airportlimousine.co.kr/eng/lbr/lbr03_2_1.php  และปัจจุบันนี้มีรถเที่ยวดึกสำหรับผู้ที่มาถึงอินชอนไฟลท์ดึกอีกด้วยนะ  สำหรับค่าโดยสารจะคิดตามเส้นทางและสถานีที่ลง เช่น สถานีมยองดงที่เจ้าของบล็อกลงเนื่องจากเป็นสถานีสุดท้ายค่าโดยสารอยู่ที่ 15,000 วอน 

วิธีชำระเงินสามารถทำได้หลายวิธีคือ 1. จ่ายเป็นเงินสดแก่พนักงานขับบนรถ 2. ซื้อตั๋วเที่ยวเดียวจากบู้ทขายตั๋วที่อยู่ด้านนอกตรงประตูทางออก เดินออกมาเหลียวดูทางซ้ายจะเห็นบู้ทอย่างชัดเจนเดินเข้าไปซื้อได้เลย และวิธีสุดท้าย คือการซื้อบัตร T Money และเติมเงินให้เพียงพอกับค่าโดยสาร โดยบัตรนี้สามารถใช้ร่วมในการขึ้นรถเมล์ในโซล ขึ้นรถไฟใต้ดิน และชำระค่าสินค้าในร้าน สะดวกซื้อเช่น 7-11 หรือ GS 25 อีกด้วย บัตรสามารถหาซื้อได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อทั้งหลายรวมถึงร้านขายของตามป้ายรถเมล์ก็มีขายด้วย เคยเห็นป้ายติดว่า T Money ก็แปลว่าสามารถซื้อได้ที่นั่น ปีนี้ที่เจ้าของบล็อกกลับไปเห็นมีร้านสะดวกซื้ออีกหลายร้านทีเดียว

ร้านนี้ชื่อ Good time 24 


ร้านนี้คุ้นเคยดี GS 25

ส่วนร้านนี้เพิ่งเห็น สีสันสะดุดตา เห็นทั่วไปหลายสาขารอบกรุงโซล



หากต้องการซื้อตั๋ว Airport Limousine Bus เพียงเที่ยวเดียวก็มองหาบู้ทหน้าตาแบบนี้


เมื่อขึ้นไปบนรถหากใช้บัตร T Money ก็แตะลงไปที่กล่องด้านหน้าข้างคนขับ เครื่องจะบอกราคาที่จ่ายพร้อมจำนวนเงินที่เหลือ จากนั้นก็เข้าไปเลือกที่นั่งได้เลย


คาดเข็มขัดก่อนทำสิ่งใดเพื่อความปลอดภัยของท่าน หากไม่คาดคนขับจะเดินมาบอกให้ท่านเอง ไม่ต้องกลัวลืม  บนรถกว้างขวาง สภาพดี ที่นั่งใหม่เอี่ยมและสะอาด มีทีวีเปิดข่าวและละครให้ท่านชมโดยไม่เบื่อ 


มาคราวนี้ได้ดูซีรี่ย์ใหม่เรื่อง Doctor ด้วย ใครเป็นแฟน Kim Rae Won กับ Park Shin Hye ไม่ควรพลาดเพื่อนกระซิบมาว่าต้องดู

และถ้าเบื่อก็มีนิตยสารให้หยิบอ่านอีกด้วยนะ มาครั้งที่ 2 เดือน กรกฎาคม เกาหลีมีงาน Seoul Grand Sale บนรถก็มีบัตรลดของพวก duty free และ casino ให้หยิบไปใช้ได้อีกด้วย

เมื่อนั่งมาถึงระยะทางเข้ากรุงโซล จะมีประกาศแจ้งให้ทราบถึงสถานีที่จอดมีทั้งภาษาอังกฤษ จีน เกาหลี และญี่ปุ่น เลือกฟังได้ตามอัธยาศัย จะลงสถานีไหนก็ลุกมารอที่ประตูได้เลย คนขับรถจะลงมาช่วยขนกระเป๋าให้ท่านอย่างดี บริการดีเยี่ยม


แท็กติดกระเป๋าหน้าตาประมาณนี้ มาคราวนี้มีส่วนลดของ Lotte Duty Free ให้ใช้ด้วย


นี่คือหน้าตาของเจ้าบัตร T Money บัตรสารพัดประโยชน์ในการเดินทาง (รถเมล์, รถไฟใต้ดิน, และแท็กซี่ในบางครั้ง) และซื้อของ มีประโยชน์มากเวลาซื่อของในร้านสะดวกซื้อ เงินสดหมดใช้บัตรนี้จ่ายแทนได้เวลาจะเติมเงินเติมที่ร้านได้เลยหรือจะเติมตู้ก็ได้เหมือนกัน






No comments:

Post a Comment